January 5, 2024

ยาง NR หรือยาง ธรรมชาติคืออะไร เอามาทำอะไรได้บ้าง

ทำความรู้จักยางธรรมชาติ หรือยาง NR

ยางพารา หรือยางธรรมชาติ ที่นิยมปลูกในประเทศไทยมาจากสายพันธุ์ Hevea Braziliensis ถือเป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่ง ทีมีคุณสมบัติเด่นหลายประการ สามารถนำมาประยุกต์ใช้และผลิตเป็นสินค้าหลากหลายประเภท มีอุณหภูมิการเปลี่ยนสถานะคล้ายแก้ว หรือเรียกกระบวนการนี่ว่า กลาสทรานซิซัน (Glass transition temperature, Tg) คืออยู่ที่ประมาณ -72 ºC หมายความว่าหากนำยางธรรมชาติไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า -72 ºC ยางจะเปลี่ยนจากที่เคยมีความยืดหยุ่น ไปเป็นแข็งเปราะบางเช่นเดียวกับแก้ว มีสมบัติเชิงกลดีมีความยืดหยุ่น (elastic) สูง มีความเหนียว (toughness) มีความต้านทานต่อการขัดถู (abrasion resistance) สูง และสามารถยึดติดกับวัสดุอื่น เช่น โลหะและสิ่งทอได้ดีจึงสามารถนำ ไปใช้งานทางวิศวกรรมได้หลากหลายมากขึ้น

รูปแบบยางธรรมชาติที่นิยมนำไปใช้งาน สามารถแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ดังนี้

  1. ยางธรรมชาติในรูปแบบของเหลว หรือที่เรียกว่า น้ำยางข้น ซึ่งสามารถนำไปทำผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้แทบทุกชนิด โดยใช้เครื่องหมุนเหวี่ยงที่เรียกว่า Latex saperator หรือ Latex concentrator เพื่อแยกยางที่เบากว่า ออกจากของเหลวที่หนักว่า จากนั้นใส่แอมโมเนียและปล่อยให้ไหลผ่านท่อเข้าไปในถ้วยปั่นแยก และถูกเหวี่ยงหมุนด้วยความเร็ว 7,000 - 8,000 รอบต่อนาที

    จะได้ผลผลิตแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ
    - น้ำยางข้นที่ไม่ผ่านการดัดแปรด้วยสารเคมีหรือวิธีการใดๆเพื่อให้โมเลกุลของยางเปลี่ยนไป
    - น้ำยางข้นที่ผ่านกระบวนการดัดแปรด้วยสารเคมีหรือการฉายรังสีให้โมเลกุลของยางมีการเปลี่ยนแปลง จะได้ออกมาเป็น น้ำยางคงรูป หรือ น้ำยางพรีวัลคาไนซ์
  2. ยางแห้ง สามารถแบ่งย่อยตามกรรมวิธีการผลิตได้ 4 ประเภท ดังนี้
    - ยางแผ่น หรือยางแบบธรรมดา ผลิตโดยวิธีการดั้งเดิม มีทั้งแบบยางแผ่นรมควันที่จะถูกอัดเป็นก้อนๆ ยางแผ่นแบบไม่รมควัน และยางแผ่นแบบผึ่งแห้ง
    - ยางเครพ ได้มาจากการนำเศษยางไปรีดในเครื่องเครพเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไป
    - ยางแบบระบุคุณภาพมาตรฐาน หรือยางแท่งมาตรฐาน จะถูกผลิตโดยมีเงื่อนไขการระบุคุณภาพมาตรฐานตามสากล มีคุณภาพที่สม่ำเสมอกว่ายางแห้งแบบอื่นๆ ผ่านการตรวจสอบและจัดชั้นเพื่อรับรองคุณภาพตามหลักวิชาการ เป็นยางที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
    - ยางแบบอื่นๆ ที่มีวิธีการผลิตเฉพาะตัว เพื่อให้ได้ผลผลิตเหมาะสมกับงานขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงสมบัติบางประการของยางธรรมชาติ ได้แก่ ยางที่มีความหนืดคงที่ ยางเทอร์โมพลาสติก ยางอิพอกซิไดซ์ ยางผง และยางเหลว เป็นต้น

คุณสมบัติเด่นๆ ของยางธรรมชาติ หรือยาง NR

  1. สามารถใช้งานได้ดีภายใต้อุณหภูมิที่ -55 ถึง +100 ºC
  2. ยืดหยุ่นสูงมาก และคืนตัวได้อย่างรวดเร็ว
  3. มีความเหนียวติดกันได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ก่อให้เกิดรอยต่อในผลิตภัณฑ์ที่ประกอบจากหลายชิ้นส่วน 
  4. ทนต่อแรงดึงสูง ไม่ฉีกขาดง่าย
  5. ทนต่อการขัดถูค่อนข้างสูง
  6. มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า 
  7. ไม่ทนต่อตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว เช่น เบนซีน เฮกเซน และโทเลอีน
  8. ไวต่อการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเมื่อมีแสงแดดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
  9. มีความกระเด้งกระดอนสูง แต่สะสมความร้อนระหว่างใช้งานต่ำ

แนวทางการประยุกต์ใช้งานยางธรรมชาติ หรือยาง NR

ยางธรรมชาตินับว่าเป็นยางอเนกประสงค์ สามารถนำไปผลิตใช้งานได้ทั่วไป มีความยืดหยุ่นและทนต่อแรงดึงได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความทนทาน ไม่ค่อยทนต่อสภาพอากาศ น้ำมัน และสารเคมี รวมถึงยางธรรมชาติยังมีอายุการใช้งานที่ไม่ได้ยาวนานมากนัก โดยส่วนมากนิยมนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. ซีลยางกันน้ำ
  2. แผ่นยางรองคอสะพาน
  3. แผ่นยางกันกระแทก
  4. แผ่นยางปูพื้น
  5. ยางฟองน้ำ
  6. ยางโอริง
  7. ถุงมือยาง 
  8. ถุงยางอนามัย 
  9. ลูกโป่ง 
  10. จุกหัวนม 
  11. ฟองน้ำที่นอน 
  12. หมอนฟองน้ำ

นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตยางพาราขั้นต้น ในรูปของยางแผ่นอัดก้อน ยางแท่ง และยางผสมที่พร้อมผลิตและจัดหายางธรรมชาติคุณภาพดี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพาราทุกชนิด ผ่านการคัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบหลักจากท้องถิ่นจากเขตภาคอิสาน และมุ่งเน้นการจ้างงานแก่แรงงานภายในชุมชนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการและไว้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2549 เราพร้อมส่งยางพาราที่เหมาะสมที่สุดถึงมือคุณทันใช้ในเวลาที่คุณต้องการ